ข้อความสำคัญ เชือด 4 ร้อนหลังจากเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ข้อความสำคัญ หงส์แดงเก็บความมีชัยเป็นนัดหมายที่ 2 ต่อเนื่องกันในรอบแบ่งกลุ่มของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการบุกกระหน่ำปอร์โต้กินขาด 5-1 จาก 2 ประตูของ โมฮามเหม็ดซาลาห์ กับ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน รวมทั้ง 1 ประตูของ ซาดิโอ มาเน
1. เคอร์ติส โจนส์ โดดเด่น
ลูกหม้อชาว สเกาเซอร์ เปลี่ยนเป็นลำแข้งที่เด่นที่สุดในเกมนี้ของ หงส์แดงจากการขับเขยื้อนเกมรุกที่ดินแดนกึ่งกลาง เจ้าหนูวัย 20 ปีทำเป็นดีกับการทะยานเพิ่มเติมขึ้นไปมีส่วนร่วมกับพื้นที่ในที่สุดทั้งยังยามมีบอลและไม่มีบอลในครอง คว้าตัวจอมเทคนิค
โจนส์เป็นคนบากบั่นจบสกอร์ตอนต้นเกมก่อนบอลจะเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์หนังสือเบิกร่องนาทีที่ 18 เจ้าตัวยังเป็นคนเริ่มต้นจังหวะการได้ประตู 2-0 ที่จบสกอร์โดย ซาดิโอ มาเน ก่อนที่จะทำ 2 แอสซิสต์ในครึ่งเวลาข้างหลัง
2. เฮนเดอร์สัน สังสรรค์เกมที่ 400
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มีชื่อลงไปในสนามให้กับลิเวอร์พูล เป็นเกมนัดหมายที่ 400 เข้าไปแล้วแล้วก็เปลี่ยนเป็นนักฟุตบอล เร้ดแมชีน ผู้ที่ 27 ที่ลงไปในสนามถึงปริมาณนัดหมายดังที่กล่าวมาข้างต้นให้กับกลุ่มเมื่อรวมทุกรายการต่อจาก สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ทำเป็นในปี 2007
3. ซาลาห์เครื่องติด
ให้ภายหลังการประลองในช่วงฤดูกาล 2021/22 มาได้ 8 เกมเมื่อรวมทุกรายการ โมฮาเหม็ด ซาลาห์มีชื่อพังทลายประตูให้กับ หงส์แดงได้แล้วถึง 8 ลูก (2 แอสซิสต์) ภายหลังที่เจ้าตัวพังทลาย 2 ประตูใส่ ปอร์โต้ได้ในเกมนี้
4. ลิเวอร์พูลทะยานผู้นำฝูงเดี่ยว-ไร้พ่าย ปอร์โต้ตลอดกาล
ผลจากความมีชัยในเกมนี้ทำให้ หงส์แดงยังคงไม่มีแพ้ต่อปอร์โต้ 9 นัดหมายเมื่อรวมเมื่อใดก็ตามพวกเขาะบกันในประวัติศาสตร์ (ชนะ 6 เสมอ 3) มีเพียงแต่ สคันธอร์ป และก็ วอลล์ซอลล์ แค่นั้นที่พวกเขาไม่เคยแพ้เลยกับปริมาณเกมที่มากกว่า (11 นัดหมายกับอีกทั้ง 2 กลุ่ม)
นอกเหนือจากนั้นบนตารางคะแนนของกรุ๊ปบีข้างหลังผ่าน 2 นัดหมาย มีเพียงแค่ลิเวอร์พูล กลุ่มเดียวเพียงแค่นั้นที่เก็บชัยทั้งสิ้น คว้า 6 แต้มนำหัวหน้าฝูงกระโดดๆเพียงแค่กลุ่มเดียว (แอตเลติโก มาดริด 4 คะแนน, ปอร์โต้1 คะแนน และก็ เอซี มิลาน ยังไม่มีแต้ม)
หงส์แดงฟอร์มสุดดุ! บุกกระหน่ำปอร์โต้กินขาด 5-1 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก
หงส์แดงเก็บความมีชัยเป็นนัดหมายที่ 2 ต่อเนื่องกันในรอบแบ่งกลุ่มของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการบุกกระหน่ำปอร์โต้กินขาด 5-1 จาก 2 ประตูของ โมฮามเหม็ด ซาลาห์กับ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน รวมทั้ง 1 ประตูของ ซาดิโอ มาเน
ลิเวอร์พูลได้ประตูหนังสือเบิกร่อง 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 18 จากการขึ้นเกมที่กราบซ้ายของ เคอร์ติส โจนส์เลี้ยงจี้เข้าไปในกรอบจุดโทษก่อนอุตสาหะปั่นโค้งด้วยขวา ดิโอโก้ คอสต้า ล้มตัวปัดบอลไปเข้าทาง ซาลาห์จิ้มบอลสู่ก้นตาข่ายโล่งเตียน
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกไม่กี่อึดใจ กลุ่มของ เยอร์เก้น คล็อปป์ หนีห่างเป็น 2-0 จากการขึ้นเกมที่กราบซ้ายโดยโจนส์ อีกรอบก่อนจะแปลงแกนให้ เจมส์ มิลเนอร์ ทะลุขึ้นมาที่ฝั่งขวา ครอสเลียดไปที่เสาสองให้ มาเน แท็ปอินในระยะเผาขน
กลุ่มเยี่ยมทิ้งห่างเป็น 3-0 ในนาทีที่ 60 จากการตัดบอลพอดีกึ่งกลางสนามของโจนส์ ก่อนเลี้ยงจี้เข้าหากรอบจุดโทษแล้วก็มอบให้พานให้ ซาลาห์ได้ล่อเป้าหน่งๆ
ปอร์โต้ได้ประตูติดตามมาเป็น 3-1 ในนาทีที่ 75 จากการเก็บบอลจังหวะสองของ ฟาบิโอ วิเอรา เหมาะรอบๆกรอบจุดโทษก่อนครอสให้ เมห์ดี้ ทาเรมี ขึ้นกระแทกผ่านมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ตุงตาข่าย บ้านผลบอลเมื่อคืน
ช่วงท้ายเกม ฟิร์มิโน ที่เพิ่งจะลงสู่สนามมาแทนที่ ซาลาห์ในฐานะผู้เล่นสำรองเบิ้ลอีก 2 ประตูให้เกมที่ ดราเกา จบลงด้วยชัยถล่มทลายของ ลิเวอร์พูล 5-1
รายนามผู้เล่นของทั้งยัง 2 กลุ่ม
ปอร์โต้ : ดิโอโก้ คอสต้า; โคโรนา, คาร์โดโซ, มาร์คาโน, ซานูซี (เวนเดลล์ 56′); อูริเบ (วิตินญา 56′), เซร์คิโอ โอลิเวียรา (เปเป้ 67′); โอตาวิโอ (วิเอรา 14′), มาร์ติเนซ (กรูยิช 46′), ดิอาซ; ทาเรมี
สำรองที่ไม่ได้ใช้งาน : คอนไซเซา, คอสต้า, เอวานิลสัน, ชูเอา มาริโอ, มานาาฟา, มาร์เคซิน, นานู
หงส์แดง: อลิสซอน; มิลเนอร์ (โกเมซ 66′), มาติป, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน; โจนส์, ฟาบินโญ, เฮนเดอร์สัน (อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน 73′); ซาลาห์(ฟิร์ไม่โน 66′), โชต้า (โอริกี 88′), มาเน (มินามิโนะ 66′)
สำรองที่ไม่ได้ใช้งาน : อาเดรียน, เกอิต้า, เคลเลเฮอร์, โคนาเต้, ฟิลลิปส์, ซิมิคาส์, วิลเลียมส์ https://briarfairfarm.com/
